^_______________^

Have a nice day

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แผนที่ประเทศอังกฤษ


แผนที่เพิ่มเติมในประเทศอังกฤษ
·         Ashford·       
      devon
·         farnborough
·         กลอสเตอร์
·         กิ
·         Harrogate
·         Haydock
·         ลำเรือ
·         Ipswich
·         ลีดส์
·         ลิเวอร์พูล
·         กรุงลอนดอน
·         maidstone
·         มาร์โลว์

สถาบันการศึกษา ระดับมหาวิทยาลัยในประเทสอังกฤษ



University in UK
City
Cambridge, Chelmsford
Bradford
London
Middlesex
Newcastle
London
Norfolk
Exeter
London
Hertfordshire
Leicester
Manchester
New Castle
Sterling (Scottland)
Sunderland
Guildford
Brighton
Middlesbrough
London

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556


แมนเชสเตอร์
แมนเชสเตอร์ ( Manchester) เป็นนครและเมืองในสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นอังกฤษ มีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก และได้การยอมรับจากหลายฝ่ายว่าเป็นเมืองรอง (second city) ของสหราชอาณาจักร  แมนเชสเตอร์เป็นศูนย์กลางศิลปะ สื่อ และธุรกิจขนาดใหญ่ เมืองมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากการกีฬา โดยมีสโมสรฟุตบอล 3 สโมสร ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ซิตี และสโมสรคริกเก็ต แลงคาเชียร์ เคาน์ตี้ และเป็นเจ้าภาพ Commonwealth Games ครั้งที่ 17 เมื่อ ค.ศ. 2002
ชื่อของเมืองมาจากชื่อสมัยโบราณของอังกฤษ Mamucium รวมกับ ceaster จากภาษาละติน Castra แมนเชสเตอร์เป็นเขตเมืองที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่น ชาวเมืองแมนเชสเตอร์ เรียกในภาษาอังกฤษว่า แมนคูเนียน (Mancunian)
กีฬา
แมสเชสเตอร์ เป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองกีฬา มีสโมสรพรีเมียร์ลีก 2 สโมสรที่ใช้ชื่อเมืองในชื่อสโมสร คือ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันครองแชมป์เอฟเอคัปและพรีเมียร์ลีก ตามลำดับ   แมนเชสเตอร์ซิตีมีสนามกีฬาเหย้าคือสนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ จุคนได้เกือบ 48,000 คน ส่วนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีสนามกีฬาเหย้าคือ โอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร จุคนได้ 76,000 คน ถือเป็นสนามกีฬาในอังกฤษแห่งเดียวที่จัดการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดตัดสิน โดยเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2003 และยังเป็นสนามที่จัดซูเปอร์ลีกแกรนด์ไฟนอลของรักบี้ลีกสโมสรคริกเกตแลนคาเชียร์เคาน์ตี ก็ใช้สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นกีฬาเหย้าเช่นกัน


                                                 


มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด

                      มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (อังกฤษ: University of Oxford) ตั้งอยู่ใน เมืองอ๊อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร และเป็นมหาวิทยาลัยที่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ มีอายุไม่น้อยกว่า 800 ปี โดยประวัติการก่อตั้ง ไม่มีหลักฐานที่แน่นอน แต่มีหลักฐานว่าอ๊อกซฟอร์ดได้เริ่มสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 1639 (ค.ศ. 1096) และ ในปี พ.ศ. 1710 (ค.ศ. 1167) หลังจากที่ พระเจ้าเฮนรีที่ 2 ของอังกฤษ ทรงสั่งห้ามชาวอังกฤษศึกษาไปศึกษาที่ มหาวิทยาลัยปารีส เหมือนที่ชาวอังกฤษนิยม นักศึกษาและนักวิชาการอังกฤษที่เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ สมัยนั้น จึงพากันไปรวมตัวที่เมืองอ๊อกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดจึงเกิดขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์และการสนับสนุนการเงินจากคหบดีต่างๆ ปี พ.ศ. 1710 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด อนึ่ง รัชกาลที่ 6ทรงจบการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยนี้มหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งนี้มีความทันสมัยและเป็นอมตะ ยอดสูงและพื้นที่สี่เหลี่ยมของมหาวิทยาลัยแลดูกลมกลืนกับสถานที่ทางศิลปะที่ ดูมีชีวิตชีวา ร้านค้าที่คึกคักและร้านอาหารที่ทันสมัย การมาเยือนเมืองออกซ์ฟอร์ดเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ใด คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามกับบรรยากาศริมน้ำของเมือง สิ่งที่มีคุณค่าทั้งระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงภาพยนตร์ที่ตื่นใจ และรายการโทรทัศน์



ลิเวอร์พูล
                   นครลิเวอร์พูล (อังกฤษ: Liverpool) เป็นเมืองที่มีฐานะเป็นนครและเป็นเมืองเมโทรโพลิตันของเมอร์ซีย์ไซด์ในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ลิเวอร์พูลตั้งอยู่ทางตะวันออกของปากน้ำเมอร์ซีย์ (Mersey Estuary) ลิเวอร์พูลก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1207 และได้รับฐานะเป็น นครในปี ค.ศ. 1880
                   ในทางประวัติศาสตร์ของมณฑลเดิมลิเวอร์พูลเป็นส่วนหนึ่งของแลงคาสเชอร์ ความรุ่งเรืองของลิเวอร์พูลมาจากการเป็นเมืองท่าสำคัญ ภายในคริสต์ศตวรรษที่ 18 การติดต่อค้าขายกับแคริบเบียน, ไอร์แลนด์ และแผ่นดินใหญ่ยุโรป และความสะดวกในการติดต่อค้าขายกับการค้าทาสข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค (Atlantic Slave Trade) ยิ่งทำให้เศรษฐกิจเติบโตมากยิ่งขึ้น ภายในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 40% ของการค้าขายในโลกต้องผ่านเมืองท่าลิเวอร์พูลซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็น เมืองสำคัญที่สุดเมืองหนึ่งของอังกฤษ
                    ความเป็นที่นิยมของเดอะบีทเทิลส์และ กลุ่มนักร้องอื่นๆ ทำให้ลิเวอร์พูลเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ในปี ค.ศ. 2007 ลิเวอร์พูลฉลองครบรอบ 800 ปีที่ก่อตั้งมาและในปี ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลก็ได้รับตำแหน่งเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปพร้อมกับเมืองสตราวันเจอร์ ในนอร์เวย์
                    ในปี ค.ศ. 2004 บริเวณหลายบริเวณในตัวเมืองได้รับฐานะเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกที่เรียกว่าเมืองการค้าทางทะเลลิเวอร์พูล (Liverpool Maritime Mercantile City) ที่ประกอบด้วยบริเวณที่แยกกันหกบริเวณในตัวเมืองที่รวมทั้ง เพียร์เฮด (Pier Head) , ท่าอัลเบิร์ตและถนนวิลเลียม บราวน์ และสถานที่ที่น่าสนใจของตัวเมือง 











อ๊อกฟอร์ดสตรีท 
                   อ๊อกฟอร์ดสตรีท กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แหล่งชอปปิ้งอีกแห่งที่ไม่น่าที่จะพลาดคือ อ๊อกฟอร์ดสตรีท มีความยาวถึง 1 ไมล์ (1.6 กม .) ทั้งสองฟากฝั่งถนนอุดมไปด้วยร้านค้านานาชนิด ที่เห็นใหญ่โตมโหฬารที่สุดในย่านนี้ก็คงจะเป็นห้างที่มีชื่อว่าเซลฟริดเสจ  (Selfridges) ซึ่งมีของขายตั่งแต่เครื่องใช้ในบ้าน ฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าเครื่องสำอาง เครื่องแก้ว ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าแบรนเนม ซึ่งเป็นอีกแหล่งชอปปิ้งที่ทุกๆ คนประทับใจมาก
                 บนถนนเส้นอ็อกซฟอร์ดสตรีทนี้จุดเด่นที่ ไม่เหมือนใครเลยก็คือ จะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำของอังกฤษ และชอปปิงเซ็นเตอร์มารวมกันอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นพลาซา อ็อกซฟอร์ดสตรีท (Plaza Oxford Street), ห้างสรรพสินค้าจอห์นหลุยส์ (John Lewis), ห้างสรรพสินค้าเฮาส์ ออฟ เฟรเซอร์ (House of Frazer) ฯลฯ ซึ่งแต่ละห้างก็ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงด้วยกันทั้งสิ้น รูปแบบตัวอาคารก็จะแปลกแตกต่างกันออกไปในสไตล์คลาสสิกแบบอังกฤษ  



ห้างแฮร็อดส์ 
               ห้างแฮร็อดส์ (Harrods) อภิมหาเศรษฐีชาวอียิปต์ชื่อ อัลฟาเยด เป็นเจ้าของกิจการตั้งอยู่บนบรอมตันแถวๆย่าน " ไนท์บริดจ์ "(Knightsbridge) ที่ห้างแฮร็อดส์มีของขายมากมายกว่า 300 แผนก อยากจะได้อะไรข้างในมีหมด เพียงแต่ว่าจะตัดสินใจซื้อกันหรือเปล่าเทานั้น เพราะราคาข้าวของแต่ล่ะอย่างแพงหูฉี่ ในห้างมีร้านโดนัทชื่อดังอันดับ 1 ใน 10 ของโลกคือ Krispy Kream อร่อยมากขอรับประกันคุณภาพหากหาซื้ออะไรไม่ได้ ซื้อถุงก๊อปแก๊ปของห้างมาเป็นที่ระลึกก็ยังดี





วิหารเวสต์มินสเตอร์(Westminster Abbey)
มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์  อังกฤษเพราะเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกกษัตริย์แห่งอังกฤษมากว่า 900 ปีแล้ว ตัววิหารเป็นอาคารเก่าแก่แบบโกธิคจากสมัยศตวรรษที่13ภายในมีที่ฝังพระศพกษัตริย์และราชวงศ์หลายพระองค์ อาทิ พระนางเจ้างอลิซาเบธที่ 1 พระนางแมรี่ บลัดดี้แมรี่และมีอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงบุคคลสำคัญต่างๆ ในประวัติศาสตร์ ทั้งนักการเมืองไปจนถึงนักเขียน อาทิ ชาร์ลส์ ดิคเกนส์และเชคส์เปียร์ ในมุมกวีหรือ Poet’s Corner






http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif
หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (Clock Tower, Palace of Westminster)
หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (ClockTower,PalaceofWestminster) หรือรู้จักดีในชื่อบิ๊กเบน เป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นรัฐสภาอังกฤษ ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง หอนาฬิกานี้ถูกสร้าง หลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม เมื่อวันที่16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 โดยชาลส์ แบร์รีเป็นผู้ออกแบบ หอนาฬิกามีความสูง 96.3 เมตรโดยที่ตัวนาฬิกาอยู่สูงจากพื้น 55 เมตร ตัวอาคารสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย(victorian gothic)ถ้าเอ่ยถึงชื่อว่าหอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หลาย ๆ คน อาจจะรู้สึกไม่คุ้น
                      http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif
แต่ถ้าเอ่ยชื่อ บิกเบน (Big Ben) หลาย ๆ คน คงเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นชื่อหอนาฬิกาประจำรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งที่แท้จริงแล้ว บิกเบนเป็นชื่อเล่นของระฆังใบใหญ่ที่สุด หนักถึง 13,760 กิโลกรัม ซึ่งแขวนไว้บริเวณช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา ทั้งนี้มีระฆังรวมทั้งสิ้น 5 ใบ โดย 4 ใบจะถูกตีเป็นทำนอง ส่วนบิกเบนจะถูกตีบอกชั่วโมง ตามตัวเลขที่เข็มสั้นชี้บนหน้าปัดนาฬิกา ทว่าคนส่วนใหญ่กลับใช้ชื่อบิกเบนเรียกตัวหอทั้งหมดบางทีมักเรียกหอนาฬิกานี้ว่า หอเซนต์สตีเฟน (St. Stephen's Tower) หรือหอแห่งบิกเบน (Tower of Big Ben) ซึ่งที่จริงแล้วชื่อหอเซนต์สตีเฟนคือชื่อของหอในพระราชวังอีกหอหนึ่ง ซึ่งใช้เป็นทางเข้าไปอภิปรายในสภา ปัจจุบันภายในหอนาฬิกาไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม เว้นแต่สำหรับผู้ที่อาศัยในประเทศอังกฤษ จะต้องทำเรื่องขอเข้าชมผ่านสมาชิกรัฐสภาอังกฤษประจำท้องถิ่นของตน ถ้าเป็นเด็กต้องมีอายุเกิน 11 ปี จึงจะเข้าชมหอได้ สำหรับชาวต่างประเทศนั้นยังไม่อนุญาตให้ขึ้นไป